วิธีทำบัญชีรายรับรายจ่าย ประหยัดภาษี ร้านค้า แม่ค้าออนไลน์ ขายของออนไลน์
สำหรับร้านค้า แม่ค้าออนไลน์ ขายของออนไลน์ ที่เผชิญกับการแข่งขันด้านราคาที่แสนดุเดือด จนทำให้ต้องตั้งราคาขายบวกกำไรในอัตราที่บางมากๆ
การทำบัญชีรายรับรายจ่ายเป็นเรื่องจำเป็นมากกก แบบมากจริงๆๆๆ เพราะถ้าไม่ทำ เงินทั้งหมดที่คุณขายของมาได้ทั้งปีอาจจะไม่เหลืออะไรเลย เพราะหมดไปกับค่าภาษีก็เป็นได้
ทำไมร้านค้า ขายของออนไลน์ ต้องทำบัญชีรายรับรายจ่าย
ภาษีถือเป็นต้นทุนอย่างหนึ่งของการทำธุรกิจ ที่เจ้าของกิจการต้องคำนึงถึงตั้งแต่ก่อนที่จะตั้งราคาขาย
ถ้าคุณเป็นผู้ประกอบการที่ยื่นภาษีในนามบุคคลธรรมดา (คือไม่ได้จดตั้งบริษัท หรือ หจก.) คุณมี 2 ทางเลือกในการยื่นภาษีในนามบุคคลธรรมดา คือ
หักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 60%
หักค่าใช้จ่ายตามจริง
หากเลือกหักค่าใช้จ่ายแบบเหมา ผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายให้แก่กรมสรรพากร (เพราะเหมาไปแล้วว่ามีค่าใช้จ่ายที่ 60%) แต่นั่นหมายความว่าคุณจะต้องเสียภาษีจากยอดกำไรที่ 40% (40% คืออัตรากำไรนะคะ ไม่ใช่อัตราภาษีน้าาา)
ถ้ากิจการคุณสามารถทำกำไรได้ในอัตราสูงถึง 40% หรือมากกว่า การใช้วิธีเหมาๆนี้แนะนำอย่างมาก เพราะทั้งสะดวกสบาย ไม่ต้องเสียเวลาทำบัญชีรายรับรายจ่าย ไม่ต้องเสียเวลาเก็บเอกสาร ไม่ต่องเสียเวลาพิสูจน์รายจ่าย
แต่หากไม่ใช่!!! บ้าหรออออ ใครเค้าจะกำไรเยอะขนาดนั้นนน!! ธุรกิจอะไรจะมีกำไร 40%!! (#คิดในใจเด้อออ) ถ้าคุณต้องเสียภาษีโดยคิดจากยอดกำไรที่ 40% เงินที่คุณขายของมาทั้งปีอาจจะไม่เหลืออะไรเลยเพราะหมดไปกับค่าภาษีก็เป็นได้
สรุปคือ ถ้ากิจการมีอัตรากำไรไม่ถึง 40% ก็ควรจะทำบัญชีรายรับรายจ่าย เพื่อให้หักค่าใช้จ่ายตามจริงได้ค่ะ
รับทำบัญชีภาษี-รับทำรายรับรายจ่าย-ร้านค้าออนไลน์ขายของออนไลน์
วิธีทำบัญชีรายรับรายจ่าย ร้านค้า ขายของออนไลน์ ส่งสรรพากร
กรมสรรพากรได้ให้แนวทางสำหรับการทำบัญชีรายรับรายจ่ายของร้านค้า ขายของออนไลน์ แม่ค้าออนไลน์ ที่ประกอบกิจการในนามบุคคลธรรมดาไว้ดังนี้
จัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย โดยใช้แบบฟอร์มชื่อ “รายงานเงินสดรับ-จ่าย” ซึ่งต้องมีรายการและข้อความอย่างน้อยตามตัวอย่างด้านล่างนี้ และสามารถเพิ่มช่องรายการให้เหมาะสมกับสภาพของกิจการได้
บัญชีรายรับรายจ่ายร้านค้า-ขายของออนไลน์-ส่งสรรพากร
จัดทำเป็นภาษาไทย โดยหากทำเป็นภาษาอื่นต้องมีภาษาไทยกำกับด้วย
ต้องบันทึกภายใน 3 วันทำการ นับแต่วันที่รับ/จ่ายเงิน
รายการที่จะนำมาลงในรายงาน
จะลงรายการโดยการ สรุปยอดของแต่ละวัน หรือลงแยกทีละรายการ ก็ได้
ตัวอย่างบัญชีรายรับรายจ่ายร้านค้า-ขายขออนไลน์-ส่งสรรพากร
แต่ละรายการที่ลงต้องมีเอกสารประกอบ เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี ฯลฯ ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอกสารประกอบรายจ่ายที่สรรพากรยอมรับได้ที่นี่
รายจ่ายที่นำมาลงในรายงานได้ ต้องเป็นรายจ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการประกอบกิจการ
ถ้าไม่ได้เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับภาษีซื้อที่เกิดจากรายจ่ายนั้น สามารถนำมาลงเป็นต้นทุนของสินค้าหรือค่าใช้จ่ายได้ทั้งจำนวน
หากมีการขาย/ซื้อเป็นเงินเชื่อ ให้ลงรายการในวันที่ได้รับ/จ่ายเงินจริง โดยอธิบายเพิ่มเติมในช่องหมายเหตุ
ให้สรุปยอด รายรับ และรายจ่าย เป็นรายเดือน เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
หมายเหตุ: หากประกอบกิจการในนามนิติบุคคล เช่น บริษัท หรือ หจก. ไม่สามารถใช้รายงานเงินสดรับ-จ่ายนี้ได้นะคะ ต้องจัดทำบัญชีตามมาตรฐานการบัญชีที่เกี่ยวข้องเท่านั้นค่ะ
วิธีการนำยอดรายรับ – รายจ่าย ไปยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ในการยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี (ภ.ง.ด.94) หรือภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี (ภ.ง.ด.90) ผู้ประกอบการสามารถนำ
“รายรับ” จากรายงานมาแสดงเป็น “ยอดเงินได้พึงประเมิน”
“รายจ่าย” จากรายงานมาหักเป็น “ค่าใช้จ่ายจริง” โดยต้องเป็นรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับกิจการเท่านั้นนะคะ
ที่มา: กรมสรรพากร
แบบฟอร์ม ตารางบัญชีรายรับรายจ่าย excel สรรพากรยอมรับ
ถ้าวัตถุประสงค์ของการทำรายรับรายจ่ายคือเพื่อยื่นกรมสรรพากร ไม่ใช่ว่าคุณจะบันทึกรายรับรายจ่ายยังไงก็ได้ เพราะกรมสรรพากรได้ให้แนวทางแบบฟอร์มรายรับรายจ่ายเอาไว้แล้ว
เราจึงแนะนำให้คุณเริ่มต้นจาก แบบฟอร์ม “รายงานเงินสดรับ-จ่าย” ของกรมสรรพากร เป็นหลัก และอาจจะเพิ่มเติมช่องรายการให้เหมาะสมกับกิจการมากขึ้นได้
กิจการบุคคลธรรมดาได้โดยทั่วไป เช่น ร้านค้า แม่ค้าออนไลน์ ขายของออนไลน์ สามารถดาวน์โหลดไฟล์ไปใช้ได้เลย
สรุปประโยชน์ของการทำบัญชีรายรับรายจ่าย
ใช้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
เพื่อให้ผู้ประกอบการทราบถึงรายได้ รายจ่าย ผลกําไรหรือขาดทุนจากการประกอบกิจการ
สามารถใช้ขอมูลควบคุมบริหารงานภายในของกิจการ
ใช้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณายื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน
ต้องการจ้างนักบัญชีช่วยทำบัญชีส่งสรรพากร?
หากท่านแค่ขายของก็งานยุ่งมากแล้ว ไม่มีเวลาทำบัญชี หรือไม่มั่นใจกลัวว่าทำเองแล้วจะเก็บเอกสารไม่ถูกต้องตามที่กรมสรรพากรต้องการ เราขอแนะนำให้ท่านใช้บริการนักบัญชีหรือสำนักงานบัญชี ให้ช่วยดูแลบัญชีของท่าน เพื่อที่ท่านจะได้มีเวลาไปโฟกัสกับการทำธุรกิจได้เต็มที่