ภาษีเงินได้นิติบุคคล

กรณีการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่พนักงานในการยินยอมให้เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในข้อบังคับการทำงาน ​

คำถาม https://www.rd.go.th/26686.html

บริษัทฯ มีระเบียบข้อบังคับและแนวปฏิบัติการบริหารงานบุคคลสำหรับพนักงาน เรื่อง การรักษาพยาบาลกรณีพนักงานเกษียณอายุ โดยข้อ 4 (ก) กำหนดว่า บริษัทฯ จะให้ความช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลแก่พนักงานในอัตราร้อยละ 100 สำหรับพนักงานประจำของบริษัทฯ ซึ่งปฏิบัติงานตั้งแต่ปีที่ 15 บริบูรณ์ขึ้นไปโดยนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่ได้รับการบรรจุให้เป็นพนักงานประจำจนถึงวันที่เกษียณอายุ

ต่อมาบริษัทฯได้ประกาศเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในเรื่องสวัสดิการการรักษาพยาบาลกรณีพนักงานเกษียณอายุจาก “พนักงานประจำของบริษัทฯ ที่เริ่มทำงานก่อนเดือนมกราคม 2552และปฏิบัติงานตั้งแต่ปีที่ 15 บริบูรณ์ขึ้นไป ฯลฯ บริษัทฯจะให้ความช่วยเหลือในอัตราร้อยละ 100” เป็น “พนักงานประจำของบริษัทฯที่เริ่มทำงานก่อนเดือนมกราคม 2552 และปฏิบัติงานตั้งแต่ปีที่ 15บริบูรณ์ขึ้นไป ฯลฯ บริษัทฯ จะให้ความช่วยเหลือในอัตราร้อยละ75

”ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน กำหนดว่า กรณีที่นายจ้างประสงค์จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานในทางที่ไม่เป็นคุณแก่ลูกจ้างนายจ้างจะต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้างด้วย บริษัทฯ ได้เสนอวิธีการจ่ายเงินค่าตอบแทนให้แก่พนักงานที่ตกลงยินยอมให้บริษัทฯ เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในระเบียบฯ โดยบริษัทฯ จะจ่ายเงินชดเชยให้แก่พนักงาน คำนวณตามปีปฏิทินนับแต่ปีที่พนักงานได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำจนถึงปี 2559 ในอัตราปีละ 20,000 บาท โดยจ่ายให้แก่พนักงานครั้งเดียวภายในวันที่ 30
ธันวาคม 2559 ซึ่งกรณีที่พนักงานลงนามตกลงยินยอมให้บริษัทฯ เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในระเบียบฯ ตาม บริษัทฯจะบันทึกจำนวนเงินค่าตอบแทนที่จะต้องจ่ายให้แก่พนักงาน เป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2559 บริษัทฯ หารือว่า

             บริษัทฯ สามารถนำ เงินชดเชย ค่าตอบแทนการยินยอมเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขข้อบังคับการทำงานมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทฯได้หรือไม่ อย่างไร

แนววินิจฉัย

บริษัทฯ จ่ายเงินชดเชยโดยคำนวณตามปีปฏิทินนับแต่ปีที่พนักงานได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำจนถึงปี 2559 ในอัตราปีละ 20,000 บาท ให้แก่พนักงานที่ยินยอมเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการจ่ายเงินให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับสวัสดิการการรักษาพยาบาลของพนักงาน เงินชดเชยดังกล่าวถือเป็นเงินได้ที่พนักงานได้รับตามสัญญาจ้างแรงงานตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ มีหน้าต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากร

ฉะนั้น หากการจ่ายเงินชดเชยดังกล่าวเป็นการจ่ายโดยสุจริต ตามความจำเป็นและสมควร

บริษัทฯ มีสิทธินำเงินที่จ่ายไปนั้นมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (13) แห่งประมวลรัษฎากร

การจัดทำข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน

          การจัดทำข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน คือ การกำหนดสิทธิหน้าที่ระหว่างนายจ้างและลูกจ้างที่พึงปฏิบัติต่อกัน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการทำงานและเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดขัดแย้งซึ่งกันละกัน โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 108

ให้นายจ้างซึ่งมีลูกจ้างรวมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป จัดให้มีข้อบังคับเกี่ยวกับการทํางานเป็นภาษาไทย และข้อบังคับนั้นอย่างน้อยต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับรายการ ดังต่อไปนี้
1) วันทํางาน เวลาทํางานปกติ และเวลาพัก
2) วันหยุดและหลักเกณฑ์การหยุด
3) หลักเกณฑ์การทํางานล่วงเวลาและการทํางานในวันหยุด
4) วันและสถานที่จ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทํางานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุด
5) วันลาและหลักเกณฑ์การลา
6) วินัยและโทษทางวินัย
7) การร้องทุกข์
8) การเลิกจ้าง ค่าชดเชย และค่าชดเชยพิเศษ

ให้นายจ้างประกาศใช้ข้อบังคับเกี่ยวกับการทํางานภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่นายจ้างมีลูกจ้างรวมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป และให้นายจ้างจัดเก็บสําเนาข้อบังคับนั้นไว้ ณ สถานประกอบกิจการ หรือสํานักงานของนายจ้างตลอดเวลา
โดยเผยแพร่และปิดประกาศข้อบังคับเกี่ยวกับการทํางานโดยเปิดเผย ณ สถานที่ทํางานของลูกจ้าง เพื่อให้ลูกจ้างได้ทราบและดูได้โดยสะดวก และ

มาตรา 110 ในกรณีที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับเกี่ยวกับการทํางาน ให้นายจ้างประกาศข้อบังคับที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมนั้นภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ประกาศใช้ข้อบังคับที่แก้ไขเพิ่มเติม แต่ไม่ต้องส่งสำเนาข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานให้แก่อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย